รายงานศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเอง
เรื่อง ไข้เลือดออก
ผู้ศึกษา
1.เด็กชาย ชัยยา เข็มสว่าง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2/11
ครูผู้สอน
ครูบุษบา หงษ์สกุล
ลำดับการเรียนรู้ที่1เรื่องที่ศึกษา
ไข้เลือดออก
4.2หัวข้อย่อยที่จะศึกษา
1.ไวรัสใดที่ทำให้คนเป็นไข้เลือดออก
2.ยุงชนิดใดทำให้มนุษย์เป็นไข้เลือดออกและมีวิธีป้องกันอย่างไร
3.อาการของไข้เลือดออกเป็นอย่างไรและมีวิธีรักษาอย่างไร
4.จุดกำเนิดของโรคไข้เลือดออกอยู่ที่ใด
5.วิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออก
และพาหะนำโรค
6.สมุนไพรที่ช่วยป้องกันยุงได้มีอะไรบ้าง
ลำดับการเรียนที่2การตั้งคำถามที่อยากเรียนรู้จากเรื่องที่กำหนด
•
สาเหตุของไข้เลือดออกคืออะไร
•
การคว่ำกระถางบริเวณบ้านช่วยลดการระบาดของยุงหรือไม่
•
ไข้เลือดออกแพร่เชื้อมากในฤดูใด
•
ยุงมีอายุขัยกี่วัน
•
การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้เลือดออกมีในประเทศไทยหรือไม่
•
สัตว์จะมีสิทธิ์เป็นไข้เลือดออกหรือไม่
เพราะเหตุใด
ลำดับการเรียนรู้ที่3การตั้งสมมติฐาน
•
ไข้เลือดออกมียุงเป็นพาหะนำโรค
•
การคว่ำการถางต้นไม้ช่วยลดการแพร่พันธุ์ของยุงลายได้ในระดับหนึ่ง
•
ไข้เลือดออกมักจะแพร่ระบาดในหน้าฝน
•
ยุงลายมีอายุขัยที่ไม่น่าเกิน15วัน
•
มีแต่ไม่น่าจะมีคนไทยคิดค้นขึ้น
•
ไม่ร่าจะมีเพราะเท่าที่ดูข่าวมาไม่เคยเห็นสัตว์เป็นไข้เลือดออก
ลำดับที่4วางแผนรวบรวมข้อมูล
4.1แหล่งข้อมูลที่จะไปศึกษา
1.สอบถามข้อมูลจากบุคคล
2.ศึกษาค้นคว้าจากวารสาร
3.ศึกษาค้นคว้าจากหนังสือพิมพ์
4.ศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ
5.ศึกษาค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต
6.ศึกษาค้นคว้าจากสถานที่จริง
ลำดับการศึกษาที่5 การแสวงหาและตรวจสอบความรู้
5.1การสอบถามจากบุคคล
1นายแพทย์
วรวุฒิ สุพิชญะ
2นายพงศ์ดนัย รัตนชาติชูวงศ์
3นายภัทรดนัย เข็มสว่าง
4นายตระการ ประยูรรักษ์
5.2การศึกษาค้นคว้าจากวารสาร
ได้ศึกษาค้นคว้าจากวารสาร
ชื่อประสบการณ์ 20ปี เกี่ยวกับไข้เลือดออก
ได้อธิบายเกี่ยวกับ
การเกิดโรคว่าเกิดจากยุงลาย
และนอกจากนั้นการเป็นไข้เลือดออกสามารถทำให้เสียชีวิตได้
และได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ
การป้องการโรคไข้เลือดออก เช่นใส่เสื้อผ้าแขนยาวขายาวเวลานอน
ไม่อยู่ในที่อับ และปิดภาชนะที่มีน้ำอยู่ เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เลี้ยงปลาที่กินลูกน้ำยุงลาย
และจุดยากันยุงเวลานอน
5.3การศึกษาค้นคว้าจากหนังสือพิมพ์
ได้ศึกษาจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์
ฉบับวันที่ 19กรกฏาคม 2556
5.4 การค้นคว้าจากหนังสือ
ได้ศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ
แนวทางการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกหน้าที่9-12 สรุปได้ว่า
แนวทางการควบคุมโรค
1.ป้องกันโรคล่วงหน้า เช่น กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
2.วิเคราะห์ว่าทำไมชาวบ้านจึงเป็ยไข้เลือดออก
3.ควบคุมการระบาดโรค เช่น ทำลายแหล่งกำเนิด และใช้ทรายอะเบธ
หรือปลาหาง
เพื่อให้กินตัวอ่อนของยูง
4.ถ้าคนในครอบครัวเป็นไข้เลือดออกให้รีบทำลายแหล่งกำเนิด และ
และปล่อยปลา
หางนกยูง
และแจ้งให้อานามัยมาทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงเพื่อไม่ให้โรคระบาด
มากไปกว่านี้
5.5การศึกษาค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต
สามารถสรุปได้ดังนี้
โรคไข้เลือดออกนั้นเกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อ เดงกี่ (DENGUE VIRUS) ไข้เลือดออกมีการระบาดครั้งแรกเมื่อ
พ.ศ.2501 การติดเชื้อนี้นั้นมักจะไม่แสดงอาการ ถ้ามีอาการคือ มีไข้สูงนาน
เบื่ออาหาร ถ่ายอุจระเป็นสีดำ มีจุดเลือดขึ้นตามตัว
ไข้เลือดออกนั้นสามารถเป็นได้มากกว่า 1ครั้ง
ยุงตัวเมียจะวางไข่ และกลายเป็นตัวอันใน48 ชม
และออกหาอาหารวันละ2ครั้งคือเช้า และบายถึงเย็น มีอายุไขได้นานประมาณ8วัน
หน้าฝนอาจจะมีอายุมากกว่านี้
การป้องกันไข้เลือดออกนั้นยังไม่มียาที่ใช้รักษาไข้เลือดออกโดยตรง
ดังนั้นป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้เป็นไข้เลือดออกจะดีที่สุด
โดยการป้องกันการแพร่พันธุ์ยังไม่ได้ผลดีเท่าไร และเปลืองงบประมาณทำได้โดย
ภาชนะที่มีน้ำต้องมีฝาปิด ถ้าไม่ปิดจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ให้ยุงได้
ไวรัสใดที่ทำให้คนเป็นไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกนั้นเกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อ
เดงกี่ (DENGUE VIRUS) ไข้เลือดออกมีการระบาดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2501
โดนมียุงลายเป็นพาหะนำโรค และโรคไข้เลือดออกนั้นเกิดชุกชุมในประเทศไทย
มักจะระบาดทุก2-3ปี
และบางครั้ง เราอาจจะเห็น ข่าวเกี่ยวกับเด็กเสียชีวิตเนื่องจาก โรคไข้เลือดออก และเริ่มระบาดครั้งแรกเมื่อปี
พ.ศ.2501
และกระสรวงสาธารณสุขคาดว่าจะ
มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ป่วยโรคไข้เลือด-ออกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ยุงชนิดใดทำให้มนุษย์เป็นไข้เลือดออก และมีวิธีป้องกันอย่างไร
ยุงชนิดที่ทำให้มนุษย์เป็นไข้เลือดออกนั่นคือยุงลาย(Aedesaegypti)
ที่มีเชื้อไวรัสเดงกี่
ดังนั้นเมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่ที่ต่อมน้ำลายไปกัดคน
เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทันที และจะมีอาการไข้ประมาณ
2-7วันซึ่งในช่วงนี้หากยุงกัดผู้ป่วยก็จะแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นๆ
*เชื้อไวรัสเดงกี่
มี4สายพันธุ์ ดังนั้นคนๆหนึ่งมีโอกาสเป็นถึง4ครั้งดังนั้นทางที่ดีคือ
พยายามอย่าให้ยุงกัด โดยใส่เสื้อแขนยาวขายาวในเวลานอนและทายากันยุง
ถ้าคนในครอบครัวเป็นไข้เลือดออก
ให้แจ้งกรมอาณามัยให้ทราบและมาทำลายแหล่งกำเนิดของยุงลาย
อาการของไข้เลือดออกเป็นอย่างไรและมีวิธีดูแลอย่างไร
อาการของไข้เลือดออกนั้นยังไม่มีวิธีรักษาโดยตรง
ได้แต่ประคองอาการของโรค อาการของไข้เลือดออกมี4ประการสำคัญดังนี้
1.ไข้ลอยสูง 2.อาการเลือดออก:
เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน
3.ตับโต 4.ความผิดปกติของระบบไหวเวียนเลือด หรือ ช๊อค
*มักจะเกิด
เวลาไข้ลดฉับพลัน
วิธีดูแลผู้ป่วย
ให้ผู้ป่วยพักในที่อาการถ่ายเทดี
ระหว่างมีไข้ให้ ทานพาราลดไข้ ห้ามใช้ยาจำพวกแอสไพริน ให้กินอาหารที่ย่อยง่าย
และให้ดื่นเกลือแร่ เพื่อป้องกันภาวะช๊อค
จุดกำเนิดของโรคไข้เลือดออก
ไข้เดงกี่เพิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี ค.ศ.1960 และ 2010
บันทึกของผู้ป่วยที่อาจเป็นไข้เดงกี่ปรากฏในการแพทย์จีนจากราชวงศ์จิ้น(ค.ศ.265-420)
แต่รายงานการระบาดของไข้เดงกี่ยุคแรกที่น่าเชื่อถือมากที่สุดมาจาก
ค.ศ.1779และ1780เมื่อโรคระบาดทั่วเอเชีย แอฟริกาและอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่นั้น
จนถึง ค.ศ.1940 ก็เกิดโรคเดงกี่ระบาดไม่บ่อยนัก
วิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออก และพาหะนำโรค
การป้องกัน
เวลานอน ควรนอนในมุ้งหรือในห้องติดมุ้งลวดที่ปลอดยุงลาย
ทำงานหรือเล่น ไม่ควรเล่นในมุมมืด
ห้องเรียนหรือห้องทำงาน ควรมีแสงสว่างส่องได้ ทั่วถึง มีลมพัดผ่านได้สะดวก
ทำงานหรือเล่น ไม่ควรเล่นในมุมมืด
ห้องเรียนหรือห้องทำงาน ควรมีแสงสว่างส่องได้ ทั่วถึง มีลมพัดผ่านได้สะดวก
การป้องกันตัวจากพาหะนำโรค
*ควรทายากันยุงเมื่อจะนอน
*
พ่นสารเคมีในบริเวณมุมอับภายในบ้าน
* ภาชนะใส่น้ำภายในบ้านปิดฝาให้มิดชิด
สมุนไพรที่ช่วยป้องกันยุงได้
มีดังนี้
มะกรูด วิธีใช้ นำผิวมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก
ๆ แล้วนำมาโขลกผสมกับน้ำโดยใช้
อัตราส่วน 1 ต่อ 1
แล้วกรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำมาใช้
แมงลัก วิธีใช้ขยี้ใบสดทาถูที่ผิวหนัง
ต้นยูคาลิปตัสวิธีใช้ ขยี้ใบสดทาถูที่ผิวหนัง
มอสซี่ บัสเตอร์ควรปลูกไว้ให้ไกลจากตัวบ้านเนื่องจากเป็นต้มไม้ดึงดูดยุง
ลำดับการเรียนรู้ที่7 สังเคราะห์องค์ความรู้
เมื่อศึกษาแล้ว
จึงได้รู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกดังนี้
1 ไข้เลือดออก
นั้นมีอาการอย่างไร
2 ได้รู้ความเป็นมาและจุดกำเนิดของโรคไข้เลือดออก
3 ไข้เลือดดออก นั้นมี
การป้องกันอย่างไร
4
วิธีการดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก
5 การดูแล
ตนเองเพื่อไม่ให้เป็นไข้เลือดออก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น